ขึ้นชื่อว่า เที่ยวป่า แน่นอนล่ะว่า เราจะได้พบกับต้นไม้หลากหลายชนิด หลากหลายลำดับชั้น ที่มีอยู่ในป่าอย่างมากมาย และแน่นอนล่ะว่าเราไม่อาจสามารถรู้จักมันทั้งหมด
แต่สิ่งสำคัญที่คนคิดจะ เที่ยวป่า หรือ วิ่งเทรล ในป่า ควรให้ความสำคัญคือ การแยกแยะว่าต้นไม้ หรือพืชชนิดไหนอันตราย ไม่อันตรายต่อตัวเอง เพื่อไม่ให้กิจกรรมแสนสุขของเราต้องสะดุด
บทความนี้ เราจะมาทำความรู้จัก5 ต้นไม้สุดแสบ สุดจี๊ดที่ควรหลีกให้ห่าง
ส่วนถ้าจำเป็นต้องไปอยู่ในดงต้นไม้พวกนั้น แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เอามาเล่ากันสนุกๆ แล้วก็ลุยเข้าไป 5555
5 ต้นไม้ที่คน เที่ยวป่า วิ่งเทรล ต้องระวัง
1. ต้นช้างร้อง
เป็นพืชเบอร์หนึ่งที่ทุกคนต้องรู้จักแม้ไม่เคยเจอหน้า ชื่อเสียงเลื่องลือระบือไกลพอๆกับทาก
ต้นช้างร้อง คือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกแนะนำให้รู้จักพร้อมๆกับป้อนความน่ากลัวเข้ามาด้วย
แค่ได้ยินชื่อ ก็นึกถึง ความสยอง ของความคันตามมาทันที
แล้วเชื่อไหมว่า แม้ว่าเคยเจอกัน แต่เวลาผ่านไปสักพัก หลายๆคนกลับนึกหน้าตามันไม่ออกด้วยซ้ำ
เรื่องตลกที่ออกจะงงๆสักหน่อย แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ต้นช้างร้อง ชื่อมันประกาศสรรพคุณความร้ายกาจออกมาอย่างชัดเจน
ลองนึกดูสิคะว่า แม้ช้างที่มีผิวหนังหนาๆ เดินมาโดนเจ้าต้นนี้ ยังต้องร้อง แล้วมนุษย์หนังบางๆอย่างเรา จะไปเหลืออะไร
ในความเป็นจริง ช้างหนังหนามาก หนามยังแทงไม่ค่อยจะเข้า แค่ใบไม้หนามน้อยๆแค่นี้ ช้างคงไม่ได้ร้องจริงๆหรอก
เป็นเพียงการเปรียบเทียบให้เห็นภาพมากกว่า
พิษของมันออกแนวแสบคัน โดนปุ๊บรู้ตัวทันที
แต่โดนครั้งแรกอาจจะงงๆหน่อยว่าโดนอะไร แต่ถ้าหันกลับไปดูเห็นหน้าตาก็จะรู้ได้เลยว่า ต้นไหนเป็นตัวการ
ลักษณะของต้นช้างร้อง
- ใบของ ต้นช้างร้อง มีขนแหลมทั้งหน้าใบ และหลังใบ หน้าตาผู้ร้ายแหละ แต่ตอนที่โดนเรามักอาจจะไม่ทันได้ระวังตัว
- ลักษณะต้นช้างร้องเป็นทรงพุ่ม ระดับตั้งแต่หัวเข่าขึ้นไป เรียกได้ว่าอยู่ในระดับปะทะพอดี
ดังนั้น ต้นนี้จึงเป็นหนึ่งใบไม้เด่นดัง ที่อยากให้รู้จัก จำหน้าจำตากันไว้ให้ดีๆ และระวังให้มากๆ
2. ต้นสามแก้ว
ต้นนี้มีหลายชื่อ รวมถึงช้างร้องที่ซ้ำกับต้นแรกด้วย แต่หน้าตามันจะคนละแบบ คนละทรงกับต้นแรก
เจ้าต้นนี้ใบมันหน้าตาดูเป็นมิตรกว่าช้างร้องต้นแรกที่มีขนหนามเต็มไปหมด
แต่พิษของมันก็ไม่ได้น้อยหน้าช้างร้องเลย แสบ คัน พอกัน
ลักษณะของต้นสามแก้ว
- ต้นสามแก้ว เป็นต้นไม้ยืนต้น มีตั้งแต่ต้นเล็กไปจนถึงสูงท่วมหัว ใบใหญ่รูปหอก
- ที่ใบมีขนเล็กน้อย แต่ต้องสังเกต ตั้งใจมองจริงๆถึงจะมองเห็น กว่าจะกลับไปมองว่ามันมีขนที่ใบหรือไม่ ส่วนใหญ่เราก็คันกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- สามแก้วมักชอบขึ้นอยู่ริมน้ำ อาจเป็นพื้นชุ่มๆน้ำ
- แต่บางทีก็ไม่ได้อยู่ริมน้ำเสียทีเดียว บางทีบนเนินเขา บนพื้นดินทั่วไปมันก็ขึ้นได้
ดังนั้น เวลาตั้งแค้มป์ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะตั้งใกล้กับแหล่งน้ำ หรือต้องเดินลงไปที่แหล่งน้ำ
ต้องคอยสำรวจรอบแค้มป์ก่อนว่ามีต้นไม้มีพิษอยู่ตรงไหนบ้าง
เพราะตอนที่เราอยู่ในแค้มป์ เราไม่ได้แต่งตัวป้องกันอย่างรัดกุมเหมือนระหว่างเดินทาง
3. ต้นตำแย
ชื่อก็บอกยี่ห้อความคันชัดเจน ใครไม่โดน ก็คิดว่ามันคันคะเยอไปตามเรื่อง
แต่เอาเข้าจริง มันก็คันไม่ได้น้อยหน้า 2 ต้นแรกนั่นเลย
ทั้งคัน ทั้งแสบ แบบเดียวกัน และมักจะโดนแบบไม่รู้ตัวเหมือนกันด้วย
ลักษณะของต้นตำแย
- ต้นตำแยเป็นพุ่ม อยู่ในตำแหน่งระแข้ง ระขา ใบเป็นรูปใบโพธิ์ ขอบใบหยักเป็นซี่เหมือนใบเลื่อย
- ส่วนที่ทำให้เกิดความคัน คือขนทุกส่วนบนต้นมัน ไม่ว่าขนที่ใบ ขนที่ต้น หรือช่อดอกก็ไม่เว้น
- ทุกส่วนของนางมีพิษไปเสียหมด ไม่ควรจับต้อง ลูบคลำเล่น
4. หมามุ่ย
หมามุ่ย เป็นชื่อที่รู้จักกันแพร่หลาย แต่เอาเข้าจริง พอเจอตัวกลับไม่รู้จักเสียอย่างนั้น
เพราะส่วนใหญ่เราจะจำเพียงรูปร่างหน้าตาส่วนที่เป็นพิษ คือ “ฝักของมัน”
ส่วนใบ และต้น หรือแม้แต่ดอก ไม่ได้มีพิษอะไร ไม่ได้โหดร้ายเหมือนตำแย
ลักษณะของต้นตำแย
- ดอกของ หมามุ่ย เป็นช่อสีม่วงสวยงาม เห็นแล้วค่อนข้างจะเตะตา
- ส่วนฝักมีลักษณะคล้ายถั่วแระ แต่มีขนาดใหญ่กว่า ขนปุย และหลุดร่วงง่ายมาก
- ละอองขนที่ส่วนฝักนี่แหละที่ทำให้เกิดการคัน ความอันตรายคือแม้แค่ลมพัดขนมันปลิวมาโดนผิวหนังเรา มันก็เกิดอาการคันได้แล้ว ไม่ต้องเดินไปชน ไปเตะ แบบที่มันอยู่เฉยๆรอเราไปหาเรื่องมันก่อน แต่มันปลิวมาเล่นงานเราได้ตลอด แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเสียด้วย
- หมามุ่ยเป็นพืชเถา ชอบพื้นที่แห้งแล้ง ออกดอก เกิดฝักเป็นฤดู ไม่ได้เกิดฝักได้ตลอดเวลา
ก็เท่ากับว่า ถ้าเป็นช่วงที่มันไม่ออกฝัก ก็เดินกันชิลล์ๆ จะถูกเนื้อต้องตัวกันบ้างก็ไม่เป็นไร
ช่วงที่มันออกดอก ติดผลเป็นช่วงปลายปี หรือเข้าฤดูหนาว ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม
ซึ่งก็เป็นช่วงที่เราชอบเข้าป่าเดินดอยกันนั่นเอง โอกาสที่เจอก็ถือว่าเยอะพอสมควร
ดังนั้น จำเป็นมากๆที่จะต้องจดจำหน้าตากันเอาไว้ให้ดี
ผู้เขียนเอง เจอทุกเส้นทางเดินป่ายอดฮิตหน้าหนาว เส้นทางกว้างๆนั่นแหละ
ลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างทางเลย ไม่ว่าจะเป็น ลังกาหลวง ม่อนจอง ดอยหลวงตาก หรือแม้แต่ดอยหลวงเชียงดาว
5. หนามหวาย
จาก 4 ข้อด้านบน เป็นพืชกลุ่มที่ก่อให้เกิดความแสบคัน ทั้งจากใบ และฝัก
แต่หนามหวาย ไม่ได้ก่อให้เกิดความคัน แต่โดนทีไรมีสะดุ้ง และทิ้งรอยแผลไว้เป็นที่ระลึกเสียด้วย
จริงอยู่ว่าการเดินป่า หลีกเลี่ยงหนามไม่ได้อยู่แล้ว และหนามก็มีหลากหลายชนิด
แต่หนึ่งในความสุดยอดของหนาม ไม่ใช่ต้นไม้ตระกูลงิ้ว ที่เป็นต้นใหญ่ๆ
แต่เป็นหนามที่ยอดต้นหวายนี่ต่างหาก
- หวายเป็นพืชตระกูลปาล์มเลื้อย คือยอดมันไม่ได้ชี้ขึ้นตรงๆ แต่จะพยายามเลื้อยไปเกาะกับต้นอื่นๆ การที่มันเลื้อยนี่แหละที่เป็นปัญหา ลำพังต้องระวังต้นที่มีหนามแข็งๆแล้ว ยอดมันยังเต็มไปด้วยหนามอันทรงพลังที่จิกไปทางด้านหลัง ลักษณะเหมือนเล็บเหยี่ยวที่แหลมคมและแข็งแรง ส่วนใหญ่ที่โดนกัน ไม่ค่อยจะเป็นหนามจากต้น แต่เป็นหนามจากยอดที่มันเลื้อยไปทั่วต่างหาก
- อาการที่โดนหนามหวาย จะเหมือนเดินไปเกี่ยวเข้ากับลวดหนามเส้นเล็กๆ ที่มองไม่เห็นเพราะมันมีแต่เส้นยาวๆ เล็กๆ ไม่มีใบไม้เกาะให้รู้ว่าต้องระวัง เมื่อเกี่ยวเข้ากับเสื้อผ้าแล้ว มันจะติดแน่นมาก ต้องเดินถอยหลังกลับไปแกะ
- ที่ที่ต้นหนามหวายชอบอยู่ ก็ไม่ค่อยจะเป็นที่ราบ แต่เป็นทางชันๆ คิดถึงการโดนกระชากตอนเหนื่อยๆ ทั้งเจ็บ ทั้งโมโห ทั้งรำคาญ ผสมปนเปกันไปหมด แต่ถ้าให้เทียบความเป็นพิษนั้น ก็นับว่าน้อยกว่า 4 อันดับแรกอยู่เพราะหนามนั้นโดนแล้วเจ็บ จากแล้วจบ ไม่รบกวนต่อ ส่วนพืชที่ให้พิษคันนั้นมันทิ้งความคันอยู่นาน คันจนแทบไม่เป็นทำอะไร ยิ่งคันยิ่งแสบ
ทางแก้ เราคงแก้ได้ไม่หมด รักษากันเป็นอาการไป เช่นการใช้ดึงขนมันออก
ใช้เทียน หรือข้าวเหนียวไปดึงออก ซึ่งเราก็ไม่ค่อยมีของพวกนี้ติดเป้กันหรอก
หรือให้เส้นด้ายหรือเส้นผมไปขูด ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่เพียงไปดึงขนพืชที่คันออก
แต่ไปดึงขนบนผิวหนังเราให้เจ็บยิ่งขึ้น จนไม่รู้ว่าหายคันหรือเจ็บจนชากันแน่
สุดท้ายแล้วเมื่อลองแก้หลายๆวิธี เราก็จะกลับมาสู่โหมดช่างมัน แล้วใช้ความอดทนสู้กับมันแบบขำๆ
นอกจากรักษา ก็เน้นการป้องกันเป็นหลัก ด้วยการใส่เสื้อผ้าคลุมอย่างมิดชิด ลดพื้นที่สัมผัสโดยตรง
การใส่เสื้อผ้าคลุมนั้น ไม่เพียงป้องกันใบไม้ ต้นไม้แล้ว ยังป้องกันหนอน และแมลงมีพิษได้ดีอีกด้วย
สนใจสั่งซื้อ ชุดเดินป่า วิ่งเทรล >>> ชุดเดินป่า / ชุดวิ่งเทรล
-
-
- โทร. 098 279 8090
- Line OA :
-
-
- Facebook : https://www.facebook.com/pathwild
- instagram : https://www.instagram.com/pathwild/
- Youtube : https://www.youtube.com/@PATHWILD
