CategoriesTips & Tricks กุมภาพันธ์ 22, 2024 4 Checklists เลือก เต็นท์Naturehike แบบไหนดี เต็นท์NATUREHIKE เป็นแบรนด์อุปกรณ์OUTDOOR คุณภาพสัญชาติจีนที่บุกตลาดไทยเป็นเจ้าแรก ๆ โดยเน้นเรื่องการดีไซน์ที่สวยงาม น้ำหนักที่เบา และการป้องกันน้ำฝนระดับดีมาก เพื่อให้เราได้นอนหลับสบาย ปัจจุบันกิจกรรมท่องเที่ยวเดินป่า ปีนเขา แค้มปิ้ง เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นแบรนด์อุปกรณ์OUTDOOR ทั้งไทยและต่างประเทศหลากหลายแบรนด์มากขึ้น และ NATUREHIKE ก็เป็น 1 ในนั้น สำหรับบทความนี้ เราขอเขียนถึงวิธีการเลือกซื้อเต็นท์นอนของแบรนด์นี้โดยเฉพาะ เพื่อเอาใจเหล่าสาวกของ NATUREHIKE หรือผู้ที่กำลังจะซื้อเต็นท์นอนของNATUREHIKE กันเสียหน่อย เต็นท์ NATUREHIKE ในไทยมีแบบไหนบ้างนะ 1. เต็นท์นอนทรงกระโจม หรือ Pyramid Tent เป็นเต็นท์นอนที่ถูกออกแบบมาให้กางเป็นทรงรูปสามเหลี่ยมพีระมิด โดยใช้เสาค้ำตรงกลาง 1 เสา และยึดบริเวณรอบเต็นท์ให้ตึงด้วยเชือกและสมอก มีทางเข้าออกทางเดียว และมีหน้าต่างระบายอากาศเล็ก ๆ อยู่ด้านบนสุด มักถูกออกแบบมาให้สำหรับ 1 คนนอน เน้นให้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ต้านทานลมและให้ความอบอุ่นได้ค่อนข้างดี เหมาะสำหรับการเดินทางปีนเขาที่แบกสัมภาระเอง หรือไปยังที่มีอากาศหนาวมาก ๆ และมีพื้นที่ในการกางจำกัด ยกเว้นเต็นท์นอนประเภท Glamping ที่มีขนาดใหญ่ เน้นความสวยงาม หรูหรา และถ่ายรูปสวย กรณีนี้จำเป็นต้องมีพื้นที่กว้าง รถเข้าถึงได้ง่าย 2. เต็นท์นอนทรงโดม หรือ Dome Tent มีรูปแบบการรองรับแบบเสาคู่ ง่ายต่อการถอดและประกอบ น้ำหนักเบามาก พกพาสะดวก แต่มีพื้นที่ในการนอนหรือใช้สอยภายในขนาดปานกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่ ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากที่สุดในตลาดกลุ่มแค้มปิ้งเหมาะสำหรับการเดินทางเพื่อพักผ่อนแบบแค้มปิ้ง เดินป่า ฯลฯ 3. เต็นท์นอนทรงอุโมงค์ หรือ Tunnel Tent มีรูปแบบการกางที่ค่อนข้างซับซ้อน หลังจากที่กางเสร็จแล้ว ตัวเต็นท์จะดูเหมือนทรงเรือหันหลังกลับ หรือตัวหนอน โดยทั่วไปตรงกลางจะเป็นห้องนอน และปลายทั้งสองข้างจะเป็นเต็นท์ในห้องโถง การออกแบบให้ความสำคัญกับแนวการไหลของลม เหมาะกับการนั่งรถไปแค้มปิ้ง ด้วยเพราะมีขนาดค่อนข้างใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างมาก 4. เต็นท์นอนแบบสูบลม หรือ Inflatable Tent ใช้แค่ที่สูบลมก็สามารถเนรมิตที่พักนอกบ้านอันแสนสวยงามพร้อมนอนได้แล้ว เต็นท์นอนประเภทนี้เน้นการออกแบบให้เสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของคนชอบนอนนอกบ้าน ด้วยขนาดที่ใหญ่ แบ่งสัดส่วนระหว่างห้องนอนและโถงนั่งเล่นชัดเจน เหมาะกับการแค้มปิ้งแบบครอบครัว พื้นที่กางเต็นท์กว้าง และรถเข้าถึงได้ง่าย เห็นตัวเลือกเยอะขนาดนี้แล้ว เหล่านักแค้มปิ้ง เดินป่าอย่างเราๆ หลายครั้งก็สับสนว่าเราจะ เลือกซื้อเต็นท์ แบบไหนดีล่ะ ? หรือ เต็นท์นอนรุ่นนี้เหมาะกับเราไหมนะ? และนี่คือเช็คลิสต์ที่เรารวบรวมมาเพื่อช่วยให้เพื่อนๆ สาย OUTDOOR เอามาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อกันค่ะ 4 Checklists how to เลือก เต็นท์ Naturehike แบบไหนดี 1. เต็นท์นอนขนาดไหนที่เราต้องการ “จำนวนคนไม่ได้เท่ากับตัวเลขที่บอกบนหน้าแพคเกจเสมอไป” เพราะในความเป็นจริงแล้ว เราควรคำนึงถึงจำนวนคนที่จะนอนกับเราและกระเป๋าสัมภาระที่เก็บภายในเต็นท์ นั่นหมายความว่า หากเรามีเพื่อนร่วมทริป 2 คน เราอาจต้องเลือกซื้อเต็นท์นอน 3 – 4 คนนอน เพื่อให้มีพื้นที่นอนสบายมากขึ้น ยกเว้นในกรณีที่ลานแค้มปิ้งมีพื้นที่จำกัด หรือเป็นทริปเดินป่าที่จำเป็นต้องคำนึงเรื่องน้ำหนักเป็นสำคัญ 2. การเข้าถึงจุดตั้งแค้มป์เป็นแบบไหน สิ่งที่เราต้องคำนึงอย่างต่อมาคือการเดินทางเข้าถึงจุดที่เราจะนอนว่าเป็นการเข้าถึงแบบไหน รถยนต์ หรือ เดินเท้า ในกรณีที่รถยนต์สามารถเข้าถึงจุดตั้งแค้มป์ได้เลย เต็นท์นอนที่เราเลือกสามารถเป็นหลังใหญ่ หรือเป็น Glamping tent ได้เลย เพราะเราไม่ต้องกังวลเรื่องของน้ำหนักและพื้นที่มาก แต่หากต้องเป็นการเดินเท้าแล้วล่ะก็ แน่นอนล่ะว่า “น้ำหนัก” เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่เราต้องคิดถึง นั่นหมายความว่า เราต้องพกเต็นท์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก พกพาสะดวก น้ำหนักต้องเบา อีกทั้งแข็งแรงพอที่จะรับแรงลมและแรงฝน 3. เราควรซื้อเต็นท์ “ฤดูกาล” อะไร หลายคนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อซื้อเต็นท์นอนอยู่จะเจอข้อมูลอยู่ 1 บรรทัด ว่า “X SEASON TENT” ซึ่งในส่วนของตัว X นั้นจะมีเลข 1/3/4 ฯลฯ มาแทน ซึ่งเจ้าบรรทัดนี้แหล่ะ ที่เป็นข้อมูลบอกเราว่า เต็นท์นอนหลังนี้เหมาะใช้กับฤดูไหนบ้าง 1 SEASON TENT เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ สำหรับการตั้งแค้มป์ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น เนื่องจากมีการระบายอากาศได้ดี สามารถรับมือกับฝนปรอย ๆ และลมเล็กน้อยได้เท่านั้น 2 SEASON TENT เป็นเต็นท์นอนที่ออกแบบมาสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง มีตาข่ายขนาดใหญ่เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดี มีการต้านทานฝนที่ตกลงมาได้ค่อนข้างดี หากเราประกอบอย่างถูกต้องและติดตั้งฟลายชีทกันฝนให้ตึง แต่ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเผชิญกับพายุรุนแรง ลมแรง หรือหิมะตกหนักเป็นเวลานาน 3+ SEASON TENT ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการเดินทางในฤดูร้อน รวมถึงต้นฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงปลายฤดูใบไม้ร่วงที่อาจมีหิมะตกเล็กน้อย จุดเด่นของประเภทนี้คือมีความสมดุลระหว่างความแข็งแรง การกักเก็บความอบอุ่น และการระบายอากาศ 4 SEASON TENT เหมาะที่สุดในช่วงฤดูหนาว ผลิตขึ้นสำหรับภูมิอากาศหนาวเย็น ลมแรง และหิมะหนา ถึงแม้ว่าจะสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปีก็ตาม แต่เนื่องจากมีฉนวนกักเก็บความร้อนที่มากกว่าและมีการไหลเวียนของอากาศน้อยกว่า จึงไม่แนะนำให้ใช้ในช่วงอากาศร้อน 4. อุปกรณ์อะไรบ้างที่เราควรดู หากคิดจะซื้อ เต็นท์Naturehike เต็นท์นอน 1 หลัง ประกอบด้วยอุปกรณ์ยิบย่อยมากมาย จนบางครั้งเราก็สับสนว่าจะเริ่มต้นจากอุปกรณ์ตัวไหนดี และนี่คืออุปกรณ์ที่เราขอแนะนำว่าควรให้สำคัญเป็นอันดับแรก ๆ ฟลายชีท หรือ Flysheet เต็นท์นอน 1 หลัง ประกอบด้วยอุปกรณ์ยิบย่อยมากมาย จนบางครั้งเราก็สับสนว่าจะเริ่มต้นจากอุปกรณ์ตัวไหนดี และนี่คืออุปกรณ์ที่เราขอแนะนำว่าควรให้สำคัญเป็นอันดับแรก ๆ เคลือบกันน้ำ 300 มม. โดยทั่วไปจะใช้สำหรับเต็นท์ชายหาด เต็นท์บังแดด หรือเต็นท์ผ้าฝ้ายสำหรับภัยแล้งและมีฝนตกน้อยเคลือบกันน้ำ 800-1200 มม.ใช้สำหรับเต็นท์ตั้งแค้มป์แบบทั่วไป หรือในที่ที่มีหลังคาคลุม ซึ่งสามารถป้องกันฝนเล็กน้อยถึงปานกลางได้เคลือบกันน้ำได้ตั้งแต่ 1500-3000 มม.สามารถป้องกันฝนตกปานกลางถึงหนักได้เคลือบกันน้ำได้ตั้งแต่ 3000 มม.มักจะเคลือบกับเต็นท์นอนที่ใช้ในกิจกรรมเดินป่า ปีนเขา แค้มปิ้งในที่ที่มีสภาพอากาศค่อนข้างหนาว ลมแรง หรือฝนตกหนัก ซึ่งเต็นท์นอนที่มีการเคลือบPU ถึงระดับนี้จะมีความทนต่ออุณหภูมิสูง/ทนความเย็น ป้องกันฝนได้ดี และสามารถใช้ได้ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เต็นท์ด้านใน หรือ Inner tent เต็นท์ด้านในออกแบบมาเพื่อมอบความสบายสูงสุด โดยเฉพาะเรื่องการระบายอากาศ เต็นท์ด้านในรุ่นเก่าๆที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานตลอดทั้งปีจึงมักใช้ผ้าเนื้อแข็งและตาข่ายผสมกัน แต่สำหรับรุ่นใหม่ มักจะออกแบบมาให้เป็นตาข่ายทั้งหลัง ผ้าปูพื้นเคลือบกันน้ำ และมีฟลายชีทกันน้ำแบบคลุมทั้งหลังแยกต่างหาก ซึ่งรุ่นอย่างหลังนี้หากเรานำไปกางหน้าร้อน จะถ่ายเทระบายอากาศได้ดีกว่าแบบรุ่นเก่า ซึ่งการระบายอากาศ หรือ Ventilation ถือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไอน้ำไม่ให้ก่อตัวภายในเต็นท์ นับว่าเป็นปัญหาเฉพาะเมื่ออุณหภูมิภายนอกเย็นกว่าภายในเต็นท์มาก ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อเต็นท์ควรศึกษารูปแบบของเต็นท์ในเรื่องของการระบายอากาศได้ดี มีการออกแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศของพื้นที่เราไปตั้งแค้มป์ และสามารถเลือกเปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้เล็กน้อยเพื่อให้พักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย ประตู หรือ Doors เต็นท์นอนที่มีการออกแบบประตูบานเดียวจะช่วยลดน้ำหนักโดยรวม ในขณะที่รุ่นประตูคู่จะให้ความสะดวกสบายสำหรับผู้พักมากกว่า ให้การระบายอากาศได้ดีกว่า การเลือกเต็นท์สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องให้เหมาะกับคุณ โดยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการใช้งาน จำนวนคน ความสะดวกในการพกพาเข้าถึงจุดตั้งแค้มป์ ความสะดวกสบาย ความทนทาน ฯลฯ คุณสามารถตัดสินได้ว่าเต็นท์ใดเหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุด สนใจสั่งซื้อ อุปกรณ์แค้มปิ้ง Naturehike >> อุปกรณ์แค้มปิ้ง Naturehike ช่องทางการติดต่อกับทางร้าน โทร. 098 279 8090 Line OA : Facebook : https://www.facebook.com/pathwild instagram : https://www.instagram.com/pathwild/ Youtube : https://www.youtube.com/@PATHWILD ข้อมูลอ้างอิงhttps://www.naturehike.com/blogs/news/how-to-choose-a-tenthttps://www.naturehike.com/blogs/news/tent-choosing-guidehttps://www.naturehike.com/blogs/news/waterproofing-of-tent แนะแนวเรื่องPrev คิดจะวิ่งเทรล เราต้องรู้อะไรก่อนบ้าง Next 6 เหตุผล ที่คุณควรใส่ หมวกวิ่งเทรล ระหว่างวิ่ง ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบอีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย * บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป แสดงความเห็น